20 วิธีแก้ผมร่วง ผมบาง รวมทุกฉบับในบทความเดียว
ปัญหาผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน บางคนจากที่เคยผมสวยหนา แต่แล้วอยู่ๆ เส้นผมสวยๆ ก็เริ่มร่วงบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่หวีผมหรือสระผมก็จะมีเส้นผมที่หลุดร่วงมากยิ่งขึ้น จนต้องพยายามค้นหาสารพัดวิธีเพื่อปัญหาแก้ผมร่วง ทั้งสูตรธรรมชาติ สูตรชาวบ้าน รวมถึงรักษากับคลินิก
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วงมีอยู่หลายปัจจัย ทั้งกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ความเครียด ขาดสารอาหาร แพ้สารเคมี การสังเกตอาการและปรึกษาแพทย์จะช่วยให้เราทราบถึงสาเหตุของปัญหา และรักษาผมร่วงได้อย่างเหมาะสมขึ้น แต่วิธีที่ได้ผลกับคนหนึ่งก็อาจไม่ได้ผลกับอีกคน เพราะสภาพผิวและร่างกายของเราแตกต่างกัน เราจึงรวบรวม 20 วิธีแก้ผมร่วง ผมบาง รวมเคล็ดลับทางแก้ปัญหาไว้ให้ทุกคนไว้ในบทความนี้แล้ว
1. แชมพูสูตรลดผมร่วง
หนึ่งในวิธียอดนิยมที่สุดสำหรับคนที่ผมร่วงบ่อยๆ ก็คือการเปลี่ยนแชมพู โดยเลือกแชมพูที่ช่วยลดผมร่วงโดยเฉพาะ ปัจจุบันแชมพูประเภทนี้มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ ทั้งแบบราคาถูกและราคาแพง มีทั้งของไทยและต่างประเทศ บางยี่ห้อก็ช่วยให้ผมร่วงน้อยลงจริง แต่บางยี่ห้อก็เฉยๆ ขึ้นอยู่กับสภาพหนังศีรษะและสาเหตุอาการผมร่วงของแต่ละคน
แนะนำให้ลองเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผมและหนังศีรษะ เช่น แชมพูสูตรอ่อนโยน สูตรสำหรับผมมัน สูตรสำหรับผมแห้ง ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพหนังศีรษะของเรา และเลือกแชมพูขวดขนาดเล็กมาใช้ดูก่อน เมื่อลองใช้แชมพูแล้วก็สังเกตดูว่ามียี่ห้อไหนบ้างที่ได้ผลกับเราบ้าง ถ้าใช้แล้วผมร่วงลดน้อยลงแปลว่าเหมาะกับเรา แต่ถ้าใช้ตัวไหนแล้วเกิดอาการแพ้ ก็ควรหยุดใช้แชมพูตัวนั้นๆ แล้วเลือกเปลี่ยนเป็นแชมพูตัวอื่นแทน
- ข้อดี ใช้ง่าย หาซื้อสะดวก มีหลายสูตรให้เลือก
- ข้อเสีย ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสาเหตุของผมร่วง อาจไม่ได้ผลสำหรับทุกคน
2. เซรั่มบำรุงผม
เซรั่มบำรุงผมก็เป็นอีกไอเทมที่หลายคนนิยมใช้เพื่อบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งมีทั้งแบบที่ทาลงบนหนังศีรษะโดยตรง และแบบที่ทาเพื่อบำรุงเส้นผม บางยี่ห้อมีส่วนช่วยให้ผมดูหนาขึ้นได้ด้วย ถ้าใครต้องการแก้ปัญหาผมร่วง ควรเลือกเซรั่มที่ช่วยบำรุงรากผม เพื่อทำให้ผมแข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม โดยเฉพาะเซรั่มที่มีส่วนผสมของไบโอติน คาเฟอีน หรือสมุนไพรต่างๆ เพราะส่วนผสมเหล่านี้เป็นตัวช่วยบำรุงเส้นผมโดยเฉพาะเลย
- ข้อดี ช่วยบำรุงรากผมและกระตุ้นเส้นผมให้แข็งแรง
- ข้อเสีย ต้องใช้ต่อเนื่อง และบางยี่ห้ออาจไม่ได้ผลชัดเจน
3. อาหารเสริม
อาหารเสริมที่ช่วยเรื่องผม ก็จะมีซิงค์ ไบโอติน เราลองกินมาสักพัก รู้สึกว่าผมแข็งแรงขึ้น แถมผมร่วงน้อยลง แต่ต้องกินอย่างต่อเนื่องนะคะ เพราะวิธีต้องการความสม่ำเสมอและต้องใช้เวลาค่ะ ยิ่งถ้าทำควบคู่ไปกับการดูแลด้านอื่นๆ ด้วย จะยิ่งดีเลยค่ะ ที่สำคัญคือควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนกิน เพื่อเลือกอาหารเสริมที่เหมาะกับตัวเอง และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
- ข้อดี บำรุงจากภายใน ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผม
- ข้อเสีย ต้องรับประทานต่อเนื่อง และอาจไม่เห็นผลทันที
4. หมักผมด้วยสมุนไพร
การหมักผมด้วยสูตรสมุนไพร อย่างมะกรูด อัญชัน ขิง เป็นเคล็ดลับผมสวยที่สืบทอดกันมานาน หากใครเคยลองหมักผมด้วยสูตรธรรมชาติจะพบว่าช่วยทำให้ผมนุ่ม ลื่น และมีกลิ่นหอม แต่เรื่องผมร่วงจะยังไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนนัก ต้องใช้เวลา และทำอย่างสม่ำเสมอถึงจะเห็นผล วิธีนี้เหมาะกับคนที่ชอบวิธีธรรมชาติที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ
- ข้อดี ปลอดภัยจากสารเคมี ช่วยให้ผมแข็งแรงและมีกลิ่นหอม
- ข้อเสีย ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
5. นวดหนังศีรษะ
การนวดหนังศีรษะ ทั้งนวดเอง หรือไปนวดที่ร้าน มีส่วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณหนังศีรษะ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แนะนำให้ลองนวดหนังศีรษะด้วยมือเบาๆ หรือใช้เครื่องนวดหนังศีรษะวันละ 5 – 10 นาที วิธีนี้จะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น ใครอยากลดผมร่วงก็ลองนวดหนังศีรษะเป็นประจำ พร้อมกับลดผมร่วงด้วยวิธีอื่นๆ ควบคู่กันไปจะเห็นผลชัดเจนขึ้น
- ข้อดี ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้รากผมแข็งแรงขึ้น
- ข้อเสีย ต้องทำเป็นประจำ และอาจไม่ช่วยแก้ผมร่วงที่เกิดจากฮอร์โมน
6. ไม่สระผมบ่อยเกินไป
เส้นผมของคนเรานั้นหลุดร่วงง่ายมากเวลาที่สระผม คนที่ผมร่วงบ่อยๆ ไม่ว่าใครก็คงอยากเลี่ยงจากปัญหานี้ โดยจากที่เคยสระผมทุกวันก็เปลี่ยนมาเป็นสระแบบวันเว้นวัน หรือ 2 – 3 วัน/สัปดาห์ หรือเลือกปรับตามความเหมาะสม ข้อเสียข้องการสระผมบ่อยเกินไปคือจะทำให้หนังศีรษะแห้ง ระคายเคือง จึงส่งผลให้ผมร่วงได้ ลองเว้นระยะการสระผมแต่ละครั้งให้นานขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้หนังศีรษะแห้งน้อยลง ลดปัญหาผมมัน และช่วยลดผมร่วงได้
- ข้อดี ลดการระคายเคืองหนังศีรษะ ลดผมร่วงจากความแห้ง
- ข้อเสีย อาจทำให้ผมมันง่ายขึ้นในบางคน
7. ใช้หวีซี่ห่าง
ใครที่มีปัญหาผมขาดหลุดร่วงง่าย ลองเปลี่ยนมาใช้หวีซี่ห่างแทนหวีแบบเดิม เท่านี้จะช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมได้มากขึ้น แถมยังทำให้ผมหวีง่าย ไม่พันกัน ยิ่งตอนผมเปียกๆ ก็ยิ่งควรใช้หวีซี่ห่าง เพราะจะได้ไม่ไปดึงรั้งผมจนผมขาด ผมร่วงหนักกว่าเดิม
- ข้อดี ลดการดึงรั้งของเส้นผม ลดการขาดหลุดร่วง
- ข้อเสีย ไม่ได้ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมโดยตรง
8. ไม่มัดผมแน่นเกินไป
ถ้าเรามัดผมแน่นจนเกินไปจะทำให้เส้นผมดึงรั้งหนังศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผมขาดหลุดร่วงได้ จึงควรเลี่ยงการมัดผมแน่นๆ หรือใช้วิธีมัดแบบหลวมๆ แทน ผลลัพธ์คือผมขาดหลุดร่วงลดลง สำหรับใครที่ชอบมัดผมตอนนอน แม้แต่ตอนนอนก็ควรหลีกเลี่ยงการมัดผมแน่นๆ ด้วยนะ
- ข้อดี ลดการดึงรั้งเส้นผม ลดโอกาสผมขาดหลุดร่วง
- ข้อเสีย อาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาผมร่วงที่ต้นเหตุ
9. ลดความเครียด
ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผมร่วง แนะนำว่าควรหากิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ หลังทำเริ่มรู้สึกว่าเครียดน้อยลง นอนหลับดีขึ้น ส่งผลให้ผมร่วงน้อยลงตามไปด้วย ถ้าเรามีสุขภาพใจดี ร่างกายก็จะปรับตัวได้ดีขึ้น ลดปัญหาผมร่วงได้ดีเลย
- ข้อดี ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดผมร่วง ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น
- ข้อเสีย ต้องใช้เวลาและวิธีจัดการที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
10. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนนั้นสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งรวมถึงสุขภาพเส้นผมด้วย พยายามนอนให้ได้ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน เท่านี้ก็จะช่วยให้รู้สึกว่าร่างกายสดชื่นขึ้น และผมก็ร่วงน้อยลง ที่สำคัญต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจนขึ้น ดีต่อสุขภาพผมและสุขภาพของเราด้วย
- ข้อดี ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมและช่วยลดผมร่วง
- ข้อเสีย ต้องปรับพฤติกรรมการนอน อาจใช้เวลาในการปรับตัว
11. เลเซอร์ LLLT (Low-Level Laser Therapy)
เลเซอร์ LLLT เป็นเลเซอร์ที่ช่วยในการลดผมร่วง กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ฟื้นฟูเส้นผมให้เกิดใหม่ เครื่องเลเซอร์มีลักษณะคล้ายหมวก ตอนทำคุณหมอจะสวมหมวกเลเซอร์ให้เรา หลังจากนั้นก็แค่นอนสบายๆ หลังทำไปหลายครั้ง จะรู้สึกว่าเริ่มมีผมขึ้นใหม่ ควรต้องทำต่อเนื่องและใช้เวลานานจึงจะเห็นผล
- ข้อดี กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและช่วยให้เส้นผมขึ้นใหม่
- ข้อเสีย ต้องทำต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
12. ฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma)
วิธีนี้เป็นการฉีดเกล็ดเลือดของตัวเองเข้าไปที่หนังศีรษะเพื่อกระตุ้นรากผม ถ้าใครอยากใช้วิธีนี้ แนะนำให้ทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง แล้วจะรู้สึกว่ารากผมแข็งแรงขึ้น ผมร่วงน้อยลง แต่อย่าลืมว่าต้องทำหลายครั้ง จึงค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสูง
- ข้อดี ใช้พลาสมาของตัวเอง ลดความเสี่ยงจากสารแปลกปลอม
- ข้อเสีย ต้องฉีดหลายครั้ง และมีค่าใช้จ่ายสูง
13. ฉีดสเต็มเซลล์
วิธีฉีดสเต็มเซลล์จะใช้การสกัดจากไขมันตัวเอง แล้วฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นให้รากผมแข็งแรงขึ้น ทำให้ผมเกิดใหม่มีสุขภาพดีและแข็งแรง การฉีดสเต็มเซลล์ค่อนข้างราคาแพงมาก ผลลัพธ์การรักษาจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรต้องรอดูผลระยะยาวหรือทำซ้ำต่อเนื่องถึงจะเห็นผลชัดเจน
- ข้อดี ช่วยกระตุ้นรากผมให้แข็งแรง ฟื้นฟูเส้นผมที่อ่อนแอ
- ข้อเสีย ราคาสูง และผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
14. ปลูกผม
วิธีปลูกผมจะใช้การปลูกผมด้วยรากผมของเราเอง ช่วยแก้ปัญหาผมบางอย่างถาวร แต่ราคาที่ต้องจ่ายก็สูงมากเช่นกัน และต้องใช้เวลาในการพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ที่มีงบประมาณเพียงพอ
- ข้อดี เป็นการแก้ปัญหาผมบางอย่างถาวร
- ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายสูง ต้องใช้เวลาพักฟื้น
15. ใช้ยา Minoxidil
การใช้ยาลดผมร่วงผมบาง ควรทำตามคำแนะนำของเภสัชกร สำหรับยา Minoxidil จะเป็นยาแบบทา หลังใช้ไปสักพักรู้สึกว่าผมเริ่มขึ้นใหม่ แต่ไม่ได้ลดผมร่วงได้มากนัก และต้องใช้อย่างต่อเนื่อง หากหยุดใช้ยาผมอาจกลับมาร่วงอีก
- ข้อดี มีผลวิจัยรองรับว่าสามารถช่วยกระตุ้นรากผม
- ข้อเสีย ต้องใช้ตลอดชีวิต หากหยุดใช้ผมอาจร่วงกลับมาอีก
16. ใช้ยา Finasteride
ยานี้เป็นยารักษาผมร่วงสำหรับผู้ชาย ช่วยลดฮอร์โมน DHT ที่เป็นสาเหตุของผมร่วง แต่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ไม่สามารถหาซื้อได้เองตามร้านขายยา หรือร้านค้าออนไลน์
- ข้อดี ช่วยลดฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผมร่วงในผู้ชาย
- ข้อเสีย มีผลข้างเคียงทางฮอร์โมน และใช้ได้เฉพาะผู้ชาย
17. หลีกเลี่ยงสารเคมีที่รุนแรง
แน่นอนว่าอะไรที่ขึ้นชื่อว่ามีสารเคมี ย่อมไม่ดีอยู่แล้ว วิธีที่ดีในการลดผมร่วงและปลอดภัยต่อสุขภาพ คือ เลือกใช้แชมพู ครีมนวดผมที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ซึ่งจะช่วยให้หนังศีรษะระคายเคืองน้อยลง ผมร่วงก็น้อยลงด้วย
- ข้อดี ลดการระคายเคืองหนังศีรษะ และช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น
- ข้อเสีย อาจต้องเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่เคยใช้
18. ไม่ทำสี ยืด ดัดผม บ่อยเกินไป
สำหรับใครที่ชอบทำสีผมมาก หากมีอาการผมร่วง ผมบาง หรือผมร่วงมากกว่าปกติ ควรพักการทำเคมีกับผม เพื่อให้หนังศีรษะได้พักบ้าง วิธีนี้จะช่วยให้ผมสุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และร่วงน้อยลง แนะนำว่าควรเว้นระยะการทำเคมีกับผม อย่างน้อย 3 – 6 เดือน เมื่อสุขภาพผมดีขึ้นแล้วค่อยกลับไปทำสวยต่อนะ
- ข้อดี ลดการทำลายเส้นผม ทำให้ผมสุขภาพดีขึ้น
- ข้อเสีย อาจต้องลดการเปลี่ยนลุคและสไตล์ของตัวเอง
19. ทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่มีประโยชน์ย่อมดีต่อสุขภาพมีส่วนสำคัญในการบำรุงทั้งต่อร่างกายและเส้นผม ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีน ผักใบเขียว และอาหารที่มีธาตุเหล็ก เพราะจะช่วยบำรุงเส้นผมจากภายในได้ ช่วยให้ผมสุขภาพแข็งแรงขึ้น
- ข้อดี บำรุงเส้นผมจากภายใน ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น
- ข้อเสีย ต้องปรับพฤติกรรมการกิน และอาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
20. ปรึกษาแพทย์
ถ้าใครลองรักษาผมร่วงด้วยตัวเองแล้วไม่หายสักที ลองผิดลองถูกมาหลายวิธีแล้วก็ไม่ดีขึ้น การตัดสินใจไปพบแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะจะทำให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง ตรงจุด รู้สาเหตุของผมร่วง และวิธีรักษาที่เหมาะสม สำหรับใครที่ลองวิธีต่างๆ แล้วยังไม่ได้ผล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์จะดีกว่านะ
- ข้อดี ได้รับคำแนะนำที่ตรงจุดและเหมาะสมกับปัญหาเฉพาะบุคคล
- ข้อเสีย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และอาจต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง
สรุปแล้ว การแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ต้องอาศัยความอดทน และความสม่ำเสมอ ลองหาสาเหตุที่แท้จริง และเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง อย่าเพิ่งท้อ ลองผิดลองถูก จนกว่าจะเจอวิธีที่ใช่ และอย่าลืมว่าสุขภาพผมก็เหมือนสุขภาพกาย ต้องดูแลทั้งภายในและภายนอกด้วย
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองคิวปรึกษาแพทย์ได้ที่
นิติธรรมคลินิก พิษณุโลก
โทร: 055-303899, 097-251-3390
Line: https://lin.ee/mxQAzch
Facebook: นิติธรรม คลินิก
นิติธรรมคลินิก กรุงเทพ (สีลม)
โทร: 095-289-9998
Line: https://lin.ee/kUu8NAt
Facebook: นิติธรรม คลินิก สาขาสีลม Btsศาลาแดง